การอักเสบที่เรารู้จักกันดี คือ การอักเสบที่เราเห็นได้ชัดยามเราไม่สบาย เช่น คออักเสบ มีอาการแสบคอ ไข้ขึ้น หรือสิวอักเสบ มีอาการ ปวด บวม เจ็บ แต่การอักเสบในทาง Anti-aging medicine นั้นแตกต่างออกไป เป็นการอักเสบในระดับ sub-clinical คือ ไม่แสดงอาการ ปวด บวม แดง ร้อนให้เราเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เป็นการอักเสบในระดับเซลล์ที่ต้องใช้วิธีการตรวจวัดระดับสารในเลือดบางตัว จึงจะบอกได้ว่ามีการอักเสบเกิดขึ้นในร่างกาย

การอักเสบในระดับเซลล์ที่เกิดขึ้นนี้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยคือ การที่อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ เกิดเป็นสารที่มีชื่อเรียกว่า Arachidonic Acid หรือ AA ซึ่งเปรียบเสมือนถ่านที่เป็นต้นกำเนิดของเพลิงการอักเสบ และยังกระตุ้นให้เกิดการหลั่งของไซโทไคน์ (Cytokines) ซึ่งเปรียบเสมือนน้ำมันที่ราดลงบนเปลวไฟ เมื่อมีทั้งต้นเพลิง มีทั้งน้ำมันที่ช่วยให้เพลิงลุกไหม้ การอักเสบจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมีการอักเสบหรือมีไฟไหม้เกิดขึ้น โดยเฉพาะหากมีการอักเสบมากหรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน การทำลายหรือความเสียหายต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกายก็ย่อมต้องเกิดขึ้น เช่น เมื่อมีการอักเสบบริเวณผิวหนัง ก็จะก่อให้เกิดการทำลายของคอลลาเจนที่สุขภาพดี เกิดเป็นคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพมาแทนที่

หากเปรียบร่างกายของคนเราเป็นบริษัท แผนกต่างๆเป็นดังอวัยวะแต่ละส่วน ฮอร์โมนก็เปรียบได้กับพนักงานที่คอยปฏิบัติการให้งานต่างๆลุล่วงไปได้ ฮอร์โมนหนึ่งอาจเปรียบเสมือนพนักงานทำความสะอาด คอยปัดกวาดเช็ดถูบริษัท อีกฮอร์โมนหนึ่งเป็นพนักงานฝ่ายจัดซื้อพัสดุ คอยเช็คสต็อกสินค้า หากวันหนึ่งบริษัทค่อยๆ ลดจำนวนพนักงานลง ประสิทธิภาพของบริษัทในด้านนั้นๆก็ย่อมต้องลดลงไปด้วย เช่น หากพนักงานทำความสะอาดมีจำนวนน้อยลง บริษัทก็จะสกปรกขึ้น พนักงานฝ่ายจัดซื้อพัสดุหายไป คลังสินค้าก็อาจมีของไม่เพียงพอ ร่างกายคนเราก็เช่นกัน เมื่ออายุมากขึ้น ระดับฮอร์โมนต่างๆ ก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ

ความแก่เริ่มเมื่อใด

1. อายุ 25 - 35 ปี น่าตกใจที่วัยนี้เป็นวัยที่เริ่มแก่แล้วทั้งที่เพิ่งผ่านพ้นวัยรุ่นมาได้ไม่นาน บางคนเริ่มแก่เร็วตั้งแต่ก่อนอายุ 25 เสียอีก ด้วยฤทธิ์แรงแห่งการใช้ชีวิตไม่บันยะบันยัง วัยเพียงนี้การตรวจร่างกายแบบทั่วไปมักไม่พบความผิดปกติใดเพราะความแก่ยังอยู่ในระดับเซลล์เล็กๆ เกินกว่ามนุษย์สามัญจะเห็นได้ แต่การตรวจในระดับของอายุรวัฒน์สามารถบอกสัญญาณเริ่มต้นบางอย่างได้ เช่น จากปริมาณเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่เริ่มลดน้อยลง ในวัยนี้ถ้ารู้ก่อนก็จะได้ป้องกันไว้ก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ ดังที่บอกว่าเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นั้น “ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี”

Anti-Aging Medicine หรือ เวชศาสตร์วัยยุวัฒน์ เป็นศาสตร์ในการชะลอวัย รักษาความเป็นหนุ่มเป็นสาวให้คงอยู่กับเรานานๆ

แอนไทเอจจิ้ง (การชะลอวัย) ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยความงาม แต่เป็นเรื่องของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การหาวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรค ทำอย่างไรให้อายุยืนยาวอยู่เป็นหนุ่มเป็นสาวนานๆ เจ็บป่วยน้อยที่สุดจนนาทีสุดท้ายของชีวิต ระหว่างมีชีวิตอยู่ก็อยู่อย่างมีคุณภาพ